ไม่ว่าจะคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย หากได้มีอาการปวดที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งย่อมสร้างความทุกข์ทรมานเป็นที่แน่นอน แล้วนอกจากอาการปวดที่เกิดขึ้นแล้ว คำถามแรกที่เราคิดขึ้นในหัวนั่นก็คือ มันเกิดจากอะไรหว่า?? ถ้าอาการปวดเกิดขึ้นที่หลัง มันก็มีอยู่ไม่กี่โรคที่เรารู้จักกันดี นั่นคือ กล้ามเนื้อหลังอักเสบเฉียบพลัน กระดูกสันหลังเสื่อม หมอนรองกระดูกทับเส้น กระดูกสันหลังเคลื่อน เป็นต้น แต่ถ้าอาการปวดนั้น เกิดขึ้นที่ขาหนีบล่ะ มันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่?
Lying Hamstrings stretch วิธีทำ นอนหงาย ชันเข่าข้างที่ต้องการยืด จากนั้นใช้ยางยืดหรือผ้ายาวๆ (ผ้าขนหนู, ผ้าขาวม้า เป็นต้น) คล้องที่เท้า (Ball of foot) มือทั้ง 2 ข้าง จับปลายผ้า จากนั้นค่อยๆเหยียดขาขึ้นให้เข่าตรง จนรู้สึกตึงระดับปานกลางที่ต้นขาด้านหลัง หรือบริเวณข้อพับ ค้างไว้ 15 – 30 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง ดังรูป 2. Sitting Hamstrings stretch วิธีทำ นั่งหลังตรง เหยียดขาข้างที่ตรงการยืด เข่าชิดพื้น ปลายเท้ากระดกขึ้น ใช้ยางยืด/ผ้ายาว คล้องปลายเท้า มือทั้ง 2 ข้าง จับปลายผ้า และออกแรงดึง จนรู้สึกตึงระดับปานกลางที่ต้นขาด้านหลัง หรือบริเวณข้อพับ ค้างไว้ 15 – 30 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง ดังรูป หรือ นั่งหลังตรง เหยียดขาข้างที่ต้องการยืด เหยียดแขนไปทางปลายเท้าและโน้มตัวไปข้างหน้าให้นิ้วแตะปลายเท้า (การโน้มตัวให้ใช้สะโพกเป็นจุดหมุน ไม่ใช้การก้มหลัง) ดึง จนรู้สึกตึงระดับปานกลางที่ต้นขาด้านหลัง หรือบริเวณข้อพับ ค้างไว้ 15 – 30 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง ดังรูป 3. Foam roller วิธีทำ วาง foam roller ไว้ที่ต้นขาด้านหลัง จากนั้นใช้น้ำหนักตัวกดลงและเลื่อนโฟมขึ้น - ลง เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่มีอาการตึง ดังรูป สามารถติดต่อเพื่อปรึกษาปัญหาสุขภาพได้กับทางรีแฮปแคร์คลินิกโดยแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นและนักกายภาพบำบัดเฉพาะทาง สอบถามเพิ่มเติมที่ "รีแฮป แคร์ คลินิก" ที่อยู่: 423 ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.
หลีกเลี่ยงการนั่งและนอนในท่าเดิมนานๆ โดยคุณแม่ควรเปลี่ยนอิริยาบทบ่อยๆ อาจลุกขึ้นเดินไปทำอย่างอื่นสักครู่ แล้วกลับมานั่งใหม่ 2. ใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัวไม่คับจนเกินไป เพราะจะทำให้อึดอัดและการไหลเวียนเลือดไม่สะดวก 3. ควรกินอาหารที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียมให้มากขึ้น เช่น นม ปลาเล็กปลาน้อย และผักใบเขียวหรืออาจจะกินแคลเซียมในรูปอาหารเสริมก็ได้ พร้อมทั้งให้ดื่มน้ำตามมากๆ ให้ได้วันละ 2-3 ลิตร 4. คุณแม่ควรมีเวลาในการนั่งแช่เท้าด้วยน้ำอุ่น เพื่อช่วยให้เลือดมีการหลุนเวียนและไหลได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้น้ำอุ่นยังช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นคลายตัว ลดอาการเมื่อยล้าและปวดขาได้ 5. ควรมีเวลาในการบริหารร่างกาย อาจจะเป็นการฝึกโยคะเพื่อช่วยให้ร่างกาย ได้ยืดหยุ่น และผ่อนคลาย เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการปวดขา ถ้าไม่ได้เป็นอาการที่รุนแรง ก็ลองทำตามคำแนะนำได้นะคะ แต่หากปวดมากก็ต้องไปพบแพทย์ทันที เพื่อจะได้รับการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง พร้อมรับคำแนะนำกลับมาดูแลตนเองอย่างถูกวิธีต่อไป = = = = = = = = = = = = ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ We promise to provide the knowledge and know-how for new mom.