ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งข้อกำหนดและคำสั่งที่เกี่ยวข้อง มีผล 12. 00 น. วันนี้ วันนี้ (22 ต. ค. 2563) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ เรื่อง ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ประกาศ ข้อกำหนด และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียดว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 15 ต. 2563 และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 16 ต. 2563 เพื่อใช้มาตรการเร่งด่วนตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ. ศ. 2548 เข้าระงับยับยั้งการกระทำ อันกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ควบคุมและแก้ไขความปั่นป่วนวุ่นวายซึ่งนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง จนถึงวันที่ 13 พ. ย. 2563 นั้น โดยที่ปรากฏว่า ปัจจุบันเหตุการณ์ร้ายแรงอันเป็นเหตุให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงได้คลี่คลายความรุนแรงและยุติลง โดยอยู่ในภาวะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการบังคับใช้มาตรการตามที่กำหนดในกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาได้ตามปกติแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคสาม และมาตรา 11 วรรคสาม แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.
2564 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 28 ก. ศ. 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อ่านประกาศ: ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ มีรายละเอียด ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 14) ลงวันที่ 28 ก. 2564 นั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติการป้องกัน แก้ไข ระงับยับยั้ง ฟื้นฟู หรือช่วยเหลือ ประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ. 2548 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้บรรดาประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดขึ้น ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 25 มี. ศ. 2563 และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 5/2563 เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ. ศ. 2548 ลงวันที่ 25 มี. ศ. 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต. ศ. 2564 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 28 ก.
2548 นายกรัฐมนตรีจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 15 ต. 2563 ข้อ 2 บรรดาข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่ง ที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ. 2548 อันเนื่องจากได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุดลง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 ต. 2563 เวลา 12. เป็นต้นไป พล. อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
๒๕๖๔ ให้ปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น สั่ง ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ. ๒๕๖๔ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 คลิกอ่านฉบับเต็ม คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด - ๑๙) ที่ ๒๕/๒๕๖๔ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๐)
ราชกิจจาฯ เผยเเพร่ประกาศ 5 ฉบับ ขยาย พ. ร. ก. ฉุกเฉิน -กิจการ กิจกรรม เปิดเพิ่มเติม เตรียมเปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว เคอร์ฟิว 4 ทุ่ม - ตี 4 ทีมข่าวออนไลน์ช่อง8 รายงานว่า วันที่ 29 ก. ย. 2564 ราชกิจจานุเบกษา เผยเเพร่ประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ มีรายละเอียด ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 14) ลงวันที่ 28 ก. ย. พ. ศ. 2564 นั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติการป้องกัน แก้ไข ระงับยับยั้ง ฟื้นฟู หรือช่วยเหลือ ประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ. 2548 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้บรรดาประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดขึ้น ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 25 มี. ค. พ. 2563 และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 5/2563 เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ. 2548 ลงวันที่ 25 มี. ค. พ. ศ. 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.
และทางศบค. ชุดเล็กก็ต้องนำมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ต้องการให้ผ่อนคลายเพื่อเป็นของขวัญกับคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่าสถานการณ์ในช่วงนี้จะกลับมาเป็นปกติได้แล้วหรือยัง เลขาฯสมช. กล่าวว่า หากไม่มีสถานะการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เราก็จะค่อยๆดีขึ้น ตามสถานการณ์ที่กระทรวงสาธารณสุขควบคุมอยู่ใน ปัจจุบันนี้ เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดเว้นแต่จะมีสิ่งใดที่ไม่คาดคิด เช่น ในกรณีที่มีการปกปิดข้อมูล ที่ไม่ให้กับเจ้าหน้าที่ แต่ ข้อมูลที่เปิดเผยในปัจจุบันนี้คาดว่าดีขึ้นเรื่อยๆ ผู้สื่อข่าวถาม สถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ในขณะนี้จะเป็นสัญญาณได้หรือไม่ว่าถึงเวลาที่จะผ่อนคลายให้คนไทยเล่นสงกรานต์ได้แล้ว พล. ณัฐพล กล่าวว่า ได้ เพราะเราคงต้องอยู่กับตัวเลขการแพร่ระบาด โควิด-19 ประมาณนี้ คงไม่ได้อยู่กับตัวเลขเป็นศูนย์อีกแล้ว เพราะตัวเลขหลักสิบ ทางกระทรวงสาธารณสุขสามารถควบคุมจัดการได้ ซึ่งจะทำให้เราผ่อนคลายมาตรการได้มากขึ้น และจากที่ได้เรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า หากกระทรวงสาธารณสุขประเมินว่าเราสามารถผ่อนคลายได้กลางเดือนมีนาคมนี้เราก็จะได้ลดระดับลงไปอีกจากระดับในปัจจุบัน ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการผ่อนคลายเรื่องการประกาศพ.
พนักงานกู้ภัย) นับตั้งแต่วันที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คือ วันที่ 26 มีนาคม 2563 น. ส. รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในร่างฯ ไม่มีเนื้อหาส่วนใดที่พูดถึงการนิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ระดับนโยบายหรือบริหารตามที่มีข้อคำถามอยู่ อ่านข่าวเพิ่มเติม 'วิษณุ' เคลียร์ชัดปมจ่อยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ย้ำ! 24 ก. เป็นวันหยุด 'ศบค. ' เตือน อย่าการ์ดตก! เสี่ยงยอดโควิด พุ่ง 3 หมื่น ต. ค. นี้ 'เลขาฯ สมช. ' รับอาจไม่ต่อ 'พ. ฉุกเฉิน' ชี้ 'บิ๊กตู่' เตรียมการไว้อยู่แล้ว
เป็นยอดที่พบใหม่และเกี่ยวข้องกับคลับในอิแทวอน โดย 18 คน เป็นผู้ไปเที่ยวคลับ อีก 6 คน คือติดต่อกับคนเที่ยวคลับ และมีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นอีก 11 ราย แต่ทั้งหมดตอนนี้รวมเป็น 94 ราย นี่คือตัวอย่างของต่างประเทศมีมาตรการผ่อนปรนไป มีตัวเลขกลับมาเป็นซ้ำ จึงอยากให้พี่น้องรับทราบ เราไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่เจอกับเรื่องอย่างนี้ มีประเทศให้เราเรียนรู้มากมาย แล้วแต่เราว่าจะเลือกเดินไปอย่างไร เชื่อว่าคงไม่อยากเห็นตัวเลขกลับมาติดแบบสองหลัก การเลือกเปิดกิจการกิจกรรมกับการเลือกเรื่องการติดเชื้อก็ต้องสมดุลทั้งสองอย่าง ไม่มีการ์ดตก จะมีการติดเชื้อตามมา" นพ. ทวีศิลป์ กล่าวว่า การที่จะทำมาตรการต่างๆ ที่จะออกมา ไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชนต้องได้รับความร่วมมือ จากประชาชน แต่ถ้าไม่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ ผลอาจจะออกมาในทางตรงข้ามกัน เพราะฉะนั้นขอทุกคนให้ความร่วมมือ ส่วน พล. อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว. กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม. )ถึงกรณีมีประชาชนบางกลุ่มรุมหยิบของใน "ตู้แบ่งปัน" ว่า ขอชื่นชมภาคเอกชนที่มีความร่วมมือในการดูแลประ ชาชนโดยเฉพาะในเรื่องของการจัดตู้แบ่งปัน แต่ผู้ที่รับของเหล่านี้ก็ต้องสร้างจิตสำนึก เขาให้สำหรับเฉลี่ย แบ่งปันให้คนอื่น แต่ภาพที่ออกมานั้นตนรับไม่ได้ ก็ขออย่าให้เกิดขึ้นอีกในสังคมไทยต่อไป ต้องเห็นใจคนอื่นด้วย เพราะถ้าท่านทำแบบนั้น ต่อไปก็จะไม่มีคนไปบริจาค และคนอื่นก็จะไม่ได้ไปด้วย พล.
ฉุกเฉินฯ จะพบว่า มีโทษหนักกว่ามาก คือ โทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 40, 000 บาท อันจะถือว่าหนักกว่ากฎหมายใช้ควบคุมการชุมนุมในสถานการณ์ปกติอย่างเห็นได้ชัด "มาตรา 9 กำหนดว่า ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงได้โดยเร็ว หรือป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้น ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจออกข้อกำหนด ดังต่อไปนี้ …. (๒) ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย" "มาตรา 18 กำหนดว่า ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด ตามมาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ภายใต้อำนาจของพ. ฉุกเฉินฯ ตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 มีเหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุให้นักเคลื่อนไหวหรือนักกิจกรรมหลายกลุ่มออกมาจัดกิจกรรมหรือแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ อย่างเช่น การถูกอุ้มหายของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีหลายคนออกมาเรียกร้องให้ทางรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาเร่งติดตามการหายตัวไปของวันเฉลิม ซึ่งกิจกรรมการเรียกร้องความยุติธรรมหลายกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนพ. ฉุกเฉินฯ ตามมาตรา 9 ทั้งสิ้น นับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2563 มีอย่างน้อย 23 คนที่ได้รับหมายเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหาฐานฝ่าฝืน พ.