สวัสดีค่ะ คุณ noppo, อาการ ท้องผูก เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น 1. การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง เพราะขาดตัวกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ จากการที่มีปริมาณอุจจาระน้อย เช่น เกิดจากการกินอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย หรือขาดการเคลื่อนไหวของร่างกาย ทำให้ลำไส้ไม่บีบเคลื่อนตัว 2. จากปัญหาทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ส่งผลให้ลำไส้ลดการบีบตัวลง 3. การทานยาบางชนิด ซึ่งมีผลข้างเคียงทำให้ท้องผูกได้ เช่น ยาดลดกรด ยารักษาอาการซึมเศร้า ยากันชัก ยาเสริมแคลเซียมและธาตุเหล็ก ยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยด์ เป็นต้น 4. การเสียสมดุลของฮอร์โมน เช่น ตั้งครรภ์ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น 5.
รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณภายนอก พยายามอย่าให้เกิดการอับชื้น ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ ควรใช้กระดาษชำระเช็ดให้แห้ง โดยเช็ดจากด้านหน้าไปยังด้านหลัง เพื่อป้องกันการติดเชื้อสิ่งสกปรกจากทวารหนัก และถ้าหากเป็นประจำเดือน ควรดูแลเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเจริญเติบโตของเชื้อรา นอกจากนี้ไม่ควรสวมใส่กางเกงใน หรือกางเกงที่มีความคับเกินไป เพราะอาจทำให้บริเวณดังกล่าวมีความชื้นแฉะ แม้จะไม่ได้เข้าห้องน้ำเลยก็ตาม 2. ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด มีความเชื่อที่ผิดๆ กันว่า การสวนล้างช่องคลอด จะทำให้ภายในช่องคลอดสะอาด ช่วยลดการเกิดตกขาวได้ ในรายที่พึ่งผ่านการมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยป้องกันอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้อีกด้วย แต่จริงๆ แล้วการสวนล้างช่องคลอดอาจทำให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ช่องคลอดมีกลิ่นและมีตกขาวที่มากกว่าปกติ บางรายที่ใช้น้ำยา หรือน้ำที่ไม่สะอาดสวนล้างเข้าไป อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานอีกด้วย ให้ล้างด้วยน้ำเปล่า หรือสบู่แค่ภายนอกแล้วเช็ดให้แห้งก็เพียงพอแล้ว 3. ซักชุดชั้นในให้สะอาด บางครั้งสาเหตุของการเกิดตกขาว คือ การสวมใส่ชุดชั้นในที่ไม่สะอาด หรือการสวมใส่ชุดชั้นในซ้ำๆ อยู่เสมอ ดังนั้นหากเป็นตกขาว ควรเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่ทั้งหมด หรือนำชุดชั้นในเก่าไปต้มเพื่อฆ่าเชื้อโรค และควรเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่ทุกครั้งหลังอาบน้ำ เพื่อป้องกันการอับชื้นที่เป็นแหลางเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย 4.
รับประทานโยเกิร์ต การรับประทานโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยวที่มีแลคโตบาซิลลัส จะช่วยเพิ่มแบคทีเรียดังกล่าวภายในช่องคลอด ช่วยลดปัญหาตกขาวมีกลิ่นที่อาจเกิดจากความไม่สมดุลของแบคทีเรียภายในช่องคลอด โดยเฉพาะการที่แบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสถูกทำลายจากการสวนล้างช่องคลอด หรือการรับประทานยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้กระบวนการฆ่าเชื้อราภายในช่องคลอดไม่สามารถทำได้ตามปกติ จึงอาจทำให้พบตกขาวที่มีสีผิดปกติ หรือตกขาวที่มีกลิ่นเหม็น 5. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ สาเหตุส่วนมากของการมีตกขาวที่ผิดปกติ เกิดจากคู่รัก หรือคู่นอน ที่ไม่ค่อยได้ทำความสะอาดอวัยวะเพศตัวเอง จึงอาจทำให้เกิดเชื้อราขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อมีเพศสัมพันธ์จึงทำให้ติดเข้ามาภายในอุ้งเชิงกรานของฝ่ายหญิง สมุนไพรแก้ตกขาว ที่สามารถช่วยคุณได้ สมุนไพรแก้ตกขาว เป็นหนึ่งในกลุ่มสมุนไพรที่พบมากเป็นอับดับแรกๆ ซึ่งมีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้ สำหรับบทความนี้เราได้รวบรวมมาฝากนับสิบชนิด ดังต่อไปนี้ 1. ถั่วเหลือง ช่วยปรับฮอร์โมนเพศหญิง ฟื้นฟูผิวพรรณให้สดใส เต่งตึงอ่อนกว่าวัยอีกครั้ง 2. ว่านหางจระเข้ ช่วยทำให้ช่องคลอดไม่แห้ง เหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอดและวัยทอง 3. ซิงค์ เสริมธาตุเหล็กต่อการสร้างเม็ดเลือด ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ 4.
ความผิดปกติแต่กำเนิด มักเกิดจากสารพันธุกรรมในร่างกายผิดปกติ ทำให้ไม่มีการเจริญของมดลูกหรือรังไข่ ภาวะนี้จะทำให้เด็กผู้หญิงไม่โตเป็นสาว หรือมีการเติบโตเป็นสาวที่ไม่สมบูรณ์ เช่น มีหน้าอกแต่ไม่มีเลือดระดู เป็นต้น ความผิดปกตินี้จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น 2.
ปัทมา เชาว์โพธิ์ทอง สูตินรีแพทย์ * ขอบคุณข้อมูลจาก:
การติดเชื้อทริโคโมแนส หรือ เชื้อพยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis) ซึ่งเป็นพวกโปรโตซัวชนิดหนึ่ง เรียกว่า "ทริโคโมแนส วาจินาลิส" (Trichomonas vaginalis) เป็นการติดเชื้อที่พบได้รองลงมาประมาณ 25% การติดเชื้อชนิดนี้จะสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งผู้ป่วยและคู่นอนต้องรับการรักษาด้วยเสมอ โดยจะทำให้มีอาการคัน แสบ แดง และเจ็บที่อวัยวะเพศ ในบางรายอาจมีอาการปัสสาวะแสบขัดหรือมีตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว มีปริมาณมากขึ้น มีกลิ่นเหม็นออกเปรี้ยวเล็กน้อย ตกขาวมีลักษณะเป็นฟอง (ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการติดเชื้อชนิดนี้) เป็นต้น 4. เชื้อไวรัส เกิดจากการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อ "เฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์" (Herpes simplex) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริม ทำให้มีตุ่มใส ๆ ขนาดเล็ก ต่อมาจะแตกออกกลายเป็นแผลและแสบคัน มีตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งแรกที่ปรากฏอาการ 5. เชื้อบัคเตรีชนิดอื่น ๆ เช่น เชื้อสแตฟีโลค็อกคัส (Staphylococcus), สเตรปโตค็อกคัส (Streptococcus) เป็นต้น ทั้งนี้อาจพบเชื้อต้นเหตุได้มากกว่า 1 ชนิดก็ได้ 6.
กระทู้คำถาม ตามหัวข้อเลยค่ะ บางครั้งอยากมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่มีน้ำหล่อลื่นเลย เจ็บมากเวลาสอดใส่ค่ะ 0 แสดงความคิดเห็น คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ผ่าคลอด/มดลูกไม่เข้าอู่ ทำไงดี? April 27, 2018 มีคำถามว่า คนที่ผ่าคลอดทานสมุนไพรมดลูกได้ไหม? ทานแล้วส่งผลต่อลูกอย่างไรบ้าง? ควรจะทานสมุนไพรหรือไม่? คนที่คลอดลูกไม่ว่าจะคลอดปกติหรือผ่าคลอด สมัยก่อนก็จะให้กินสมุนไพร เพื่อช่วยให้ มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น หรือช่วยในการขับน้ำคาวปลาที่ตกค้างอยู่ ให้ช่องคลอดกระชับ (more…)
เราเก็บไฟล์ของคุณเป็นความลับ มีแค่คุณกับคุณหมอเท่านั้นที่เข้าถึงได้ คำตอบที่คุณจะได้เป็นเพียงความเห็นจากแพทย์ ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค โปรดพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง เหตุฉุกเฉิน โทร. 1669 รับทราบและถามคำถาม ต้องการไป รพ. ใช่มั้ย? จองคิว 24 ชั่วโมงล่วงหน้า ประหยัดเวลาคุณรอคิวไปหลายชั่วโมง จองเลย ถ้าไม่มีโรงพยาบาลที่คุณต้องการ เพิ่มโรงพยาบาลที่นี่