จิตรา เกษศรีรัตน์ เจ้าหน้าที่นิติบุคคล การเคหะชุมชนนนทบุรี 2 ชี้แจงหลังสาวโวย โดยมีเจ้าหน้าที่นิติและ รปภ. เป็นพยานยืนยันกันว่าระหว่างขนย้ายข้าวของเหล่านี้ไม่ได้มีทรัพย์สินมีค่าอะไร นอกจากเสื้อผ้าที่เน่าเหม็น กับชั้นไม้ และลิ้นชักที่ผุพังเท่านั้น ทั้งนี้ก่อนจะทำการขนย้ายทางนิติก็ได้พยายามติดต่อผู้ร้องไปหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ติดต่อได้ น. จิตรา กล่าวต่อว่า ผู้ร้องรายนี้เข้ามาเช่าตั้งแต่ปลายปี 63 จนถึงช่วงต้นปี 64 โดยเช่าพักอาศัยอยู่เดือนละ 1, 800 บาท กับเจ้าของห้องอีกทีหนึ่ง แต่ต่อมาเกิดติดค้างค่าเช่ามาตลอด และถูกตัดน้ำตัดไฟเนื่องจากไม่จ่ายเงิน ทำให้ผู้ร้องรายนี้ลักขโมยต่อน้ำและไฟมาแอบใช้ อีกทั้งยังเคยก่อเหตุตัดสายกล้องวงจรปิดในอาคารอีกด้วย จนถูกทางเจ้าของห้องไล่ออกจากห้องพัก ทำให้เมื่อเดือน มิ. 64 ผู้ร้องรายนี้ต้องย้ายออกและขนข้าวของที่ไม่สำคัญใส่ถุงดำมาวางไว้ที่ลานจอดรถของอาคารเป็นจำนวนมาก โดยอ้างว่ากำลังจะหารถขนย้ายออกไป จนกระทั่งผ่านไป 4 เดือน ข้าวของเหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อที่เปียกฝนและส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่ว ด้าน น.
ปากเกร็ด จ. นนทบุรี พบกับผู้เสียหายคือ น. ส. กษริฐา แสงเทียนดี อายุ 32 ปี และนายผดุงเดช บาศรี อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา พร้อมลูกสาวและลูกชาย นายกฯ ขอความร่วมมือช่วยกันประหยัดพลังงาน แนะ ใช้รถเมื่อจำเป็นจริง ๆ น้ำมันแพง ดันสินค้าราคาพุ่ง คาดเงินเฟ้อแตะ 4% ในไตรมาสแรก โดยเขาได้เปิดเผยเรื่องราว กับผู้สื่อข่าวว่าตนและครอบครัวเช่าแฟลตอยู่ในราคาเดือนละ 1, 800 บาท ต่อมาประสบปัญหาค้างจ่ายค่าเช่า 3 เดือนจึงถูกรื้อไล่ที่ จากนั้นจึงได้เก็บข้าวของมากองไว้ที่หน้าแฟลตเพื่อเตรียมหาที่อยู่ใหม่ จากนั้นเมื่อวันที่ 29 ต. ค. ทางเทศบาลนครปากเกร็ด ได้มาขนข้าวของไปทิ้งโดยไม่ได้แจ้งหรือบอกล่วงหน้า ทั้งๆที่จุดตรงนั้นไม่ใช่จุดที่ทิ้งขยะ จึงนำคลิปดังกล่าวไปแจ้งความกับทางตำรวจที่ สภ. ปากเกร็ด เอาไว้แล้ว ล่าสุดทางตำรวจ สภ. ปากเกร็ดได้เรียกเจรจาไกล่เกลี่ย 3 ฝ่าย คือฝ่ายผู้เสียหาย นิติบุคคลแฟลต และเจ้าหน้าที่เทศบาล ซึ่งปรากฎว่าการเจรจาคุยกันไม่ลงตัว เนื่องจากทางผู้เสียหายยืนยันว่า จะเอาของคืนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทางนิติบุคลและรปภ. ยืนยันว่า ข้าวของเหล่านี้ไม่ใช่ทรัพย์สินมีค่าอะไร เพราะเป็นเสื้อผ้าและของใช้เก่าๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางนิติฯได้เคยติดต่อผู้เสียหายให้ไปขนย้ายของอยู่หลายเดือน จนกระทั่งฝนตกเปียกแฉะ ส่งกลิ่นเน่าเหม็น ทำให้ลูกบ้านเดือดร้อน ชม "ดาวศุกร์"สว่างที่สุดในรอบปี รุ่งเช้า 9 ก.
พ. นี้ ลุ้น! น้ำมันปรับตัวหลังราคาตลาดโลกพุ่งรอบ 7 ปี ขณะที่ทางเทศบาลก็ยืนยันว่าเขาทำตามหน้าที่ หลังมีคนแจ้งเรื่องให้มาเก็บขยะก็ต้องเก็บไปตามหน้าที่ และพอนำขยะไปทิ้งจุดคัดแยกก็ไม่รู้จะไปตามของคืนยังไง สุดท้ายแล้วทำให้การเจรจาไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว ซึ่งผู้เสียหายยืนยันที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับทางคู่กรณีตามเดิม
รถที่ใช้ในการจัดการสิ่งปฏิกูล 1. 1 รถดูดสิ่งปฏิกูล - รถเทศบาลนครรังสิต จำนวน 2 คัน - รถบริษัทเอกชนที่ได้รับได้อนุญาต จำนวน 1 คัน 1. 2 รถสุขาเคลื่อนที่ จำนวน 3 คัน 2. สถานที่กำจัดสิ่งปฏิกูล - เทศบาลนครรังสิต กำจัดสิ่งปฏิกูล ณ สถานีขนถ่ายมูลฝอยฝั่งตะวันออก จังหวัดปทุมธานี ที่มา: ฝ่ายรักษาความสะอาด กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2558) การจัดการมูลฝอยเทศบาลนครรังสิต (ข้อมูลปีงบประมาณ พ. ศ. ๒๕๕8) สถานการณ์มูลฝอยชุมชน ปริมาณมูลฝอยในเขตเทศบาลนครรังสิตที่จัดเก็บได้ในปีงบประมาณ 2558 จำนวน 47, 777. 12 ตัน/ปี จำนวน 3, 981. 43 ตัน/เดือน จำนวน 130. 90 ตัน/วัน การรวบรวมมูลฝอยในชุมชน/หมู่บ้าน สถานประกอบการขนาดเล็ก -ใช้ถุงดำ ถังพลาสติก ขนาด 20 ลิตร, 50 ลิตร, 100 ลิตร และ 240 ลิตร รถเทศบาลนครรังสิต จำนวน 19 คัน รถเก็บขนมูลฝอยแบบคอนเทนเนอร์ จำนวน 5 คัน รถเก็บขนมูลฝอยแบบอัดท้าย จำนวน 13 คัน รถบรรทุกขยะติดเชื้อ จำนวน 1 คัน 2. 2 รถบริษัทเอกชนที่จ้างเหมาเก็บขนมูลฝอย จำนวน 7 คัน รถเก็บขนมูลฝอยแบบอัดท้าย จำนวน 6 คัน รถเก็บขนมูลฝอยแบบเปิดข้างเทท้าย จำนวน 1 คัน ที่มา: ฝ่ายรักษาความสะอาด กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม