อิ่มหมีได้โกโบมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเลยนึกอยากทำ Kinpira Gobo ซึ่งเป็นเมนูง่ายๆสไตล์ญี่ปุ่นทานเล่นในวันหยุดค่ะ เพื่อนๆอาจไม่คุ้นเคยกับเจ้าโกโบนี่เท่าไหร่นัก จริงๆแล้วมันคือรากไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและนิยมนำมาทำอาหารกันมากไม่ว่าจะเป็นตุ๋น ย่างและทำสลัด ผัด หรือใส่ในซูชิ ซึ่งหากใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นต้องเคยได้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้วเพียงแต่ไม่ทราบว่ามันคือเจ้าโกโบนี่แหละค่ะ ส่วน Kinpira Gobo นี้ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายก็คือโกโบผัดกับเครื่องปรุงรสง่ายๆของญี่ปุ่น เช่นโชยุ มิรินและโรยด้วยงาขาวค่ะ งั้นมาดูเครื่องปรุงกันดีกว่า 1. โกโบ 2 ขีด 2. แครอท 1 ขีด 3. โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 5. มิริน 2 ช้อนโต๊ะ 6. เหล้าสาเก 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ) 7. งาขาว 8. น้ำมันพืช วิธีทำ ล้างและหั่นโกโบเป็นเส้นบางๆ และรีบแช่ในน้ำเกลือเพื่อไม่ให้ดำ จากนั้นสะเด็ดน้ำให้แห้ง ตั้งน้ำมันบนเตาไฟแรง พอร้อนดีจึงนำโกโบหั่ลงผัดประมาณ 2-3 นาที ตามด้วยแครอนที่เห็นเป็นเส้นขนาดเดียวกัน ผัดต่ออีกสัก 2 นาที นำเครื่องปรุงที่เหลือใส่กระทะและผัดให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟร้อนๆค่ะ ขอให้สนุกกับการทำอาหารนะคะ
สำหรับใครที่เบื่ออาหารเช้าปกติธรรมดาแล้วละก็ต้องห้ามพลาดบทความนี้เลยค่ะ เพราะได้เขียนรวบรวม สูตรสมูทตี้โบวล์ ทั้ง 15 สูตร เป็นไอเดียเอาไว้ทานในวันที่เบื่ออาหาร ไม่อยากทานอะไร แต่อย่างน้อยต้องหาอะไรรองท้องนะคะ การอดอาหารไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย ลองมองหาทางเลือกอื่นดูไหมค่ะ เราอาจจะเบื่อข้าวแต่เรายังสามารถหาอะไรดีๆทานได้เพื่อให้ร่างกายไม่โหย สมูทตี้โบวล์ ก็ยังเป็นเมนูที่ไม่เลวเลยเพราะว่านอกจากจะเบาท้องแล้ว ยังอุดมไปด้วยใยอาหารและวิตามินดีๆที่ได้จากพืช แถมยังช่วยให้สดใสเมื่อทานอีกด้วยค่ะ เพราะรสชาติถูกปากและมีสีสัน ว่าแต่สูตร สมูทตี้โบวล์ ที่เลือกมาจากคุณ @nunniedailyfit นั้นมีอะไรบ้าง? ตามไปดูกันเลยดีกว่า 1. Green Smoothie Bowl สมูทตี้ชามเขียว ถ้วยนี้เนี่ยนอกจากจะช่วยให้อิ่มสบายท้องแล้วยังอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่จากผักและผลไม้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังตัดรสชาติด้วยรสเปรี้ยวๆของเชอร์รี่รับรองว่าทานแล้วสดชื่นแน่นอน ส่วนประกอบนะคะ กล้วยแช่แข็ง ผักโขม อะโวคาโด ผงแคล ผงมะคา เมล็กเชียและเมล็ดเฟล็กส์ ท็อปปิ้งโรยหน้า จะเป็นเชอร์รี่และพวกถั่วนะคะ ซึ่งอาจจะราคาแพงสำหรับเรานิดนึงอาจจะลองเปลี่ยนเป็นเมล็ดทานตะวันหรือถั่วลิสง(ปริมาณเล็กน้อย)ก็ได้ค่ะ 2.
ต้มขาหมูสูตรโกโบเรก ลองทำกันดูครับ #เมนูง่ายๆ #shorts - YouTube
"โอโซนิ" คืออะไร? Photo:PIXTA โอโซนิ โดยทั่วไปแล้วจะหมายถึง เมนูที่นำโมจิซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก รวมถึงผักต่างๆ อย่างแครอท ไชเท้า และต้นหอม ไปใส่ในน้ำซุปที่ปรุงรสด้วยโชยุหรือมิโซะ โอโซนิมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน กล่าวกันว่ามีจุดเริ่มต้นอยู่ในยุคเฮอัน (ค. ศ. 794 – 1192) โดยโมจิเป็นของนำโชคสำหรับคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ และมีการนำมารับประทานในวันพิเศษหรืองานเฉลิมฉลองต่างๆ ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นก็ยังคงสืบทอดธรรมเนียมนี้เรื่อยมา เห็นได้จากการที่แต่ละพื้นที่รับประทานโอโซนิกันในช่วงวันปีใหม่ แม้ว่าโอโซนิจะมีวิธีปรุงรส และวัตถุดิบต่างกันไปตามภูมิภาค แต่ก็สามารถพูดได้เต็มปากว่าต้องมี โมจิ ใส่อยู่แน่นอน ทีนี้ลองมาดูกันว่าวิธีปรุงรส และวัตถุดิบของโอโซนิมีอะไรบ้าง โมจิแบบไหนที่ใช้ในโอโซนิ? โมจิที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็น มารุโมจิ (丸餅 / โมจิกลม) กับ คาคุโมจิ (角餅 / โมจิเหลี่ยม) หากเปรียบเทียบกัน ญี่ปุ่นทางฝั่งตะวันตกจะใช้มารุโมจิ ในขณะที่ญี่ปุ่นฝั่งตะวันออกจะใช้คาคุโมจิเสียมากกว่า ความเป็นมาของมารุโมจิมีอยู่ว่า เนื่องจาก "กลม (丸)" สื่อความหมายถึง "สงบกลมกลืน (円満)" จึงได้นำโมจิทรงกลมมาใส่ไว้ ในกรณีของคาคุโมจิ กล่าวกันว่าเมื่อเข้าสู่ยุคเอโดะ (ค.
ตั้งกระทะใส่น้ำมันงาด้วยไฟกลางจนร้อนใส่โกโบขิงสับและแครอต ผัดจนมีกลิ่นหอม 2. ใส่ข้าวสวยลงผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยโชยุผงปรุงรสเห็ดหอม น้ำตาลทราย ตามด้วยไข่แล้วผัดให้เข้ากันอีกครั้ง 3. ใส่ต้นหอม ผัดพอเข้ากัน จัดจานพร้อมเสิร์ฟ Tips: โกโบไม่จำเป็นต้องปอกเปลือกก็สามารถปรุงอาหารได้ หาซื้อได้ที่ฟู้ดแลนด์ ผงปรุงรสเห็ดหอมหาซื้อได้ตามร้านขายอาหารมังสวิรัติและซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 471. 78 กิโลแคลอรี โปรตีน 10. 62 กรัม ไขมัน 29. 76 กรัม คาร์โบไฮเดรต 41. 51 กรัม ไฟเบอร์ 1. 10 กรัม สูตร: อายูมิ โอคุมะ ภาพ: จิรวัฒน์ มหาทรัพย์ถาวร สไตล์: กษมา แก้วจำนง ผู้ช่วยสไตลิสท์: พิศุภางค์ หาญภักดีสกุล
ตามรอยตลาดสึกิจิ ตอน โกโบ และหอยนางรม Trails to Tsukiji: Ep. 36 Gobo โกโบ พืชหน้าตาประหลาด เหมือนกิ่งไม้ แต่ที่จริงเป็นพืชมีประโยชน์มาก และอยู่คู่ชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ค้นพบเรื่องราวของโกโบจากต้นกำเนิดในเมืองอาโอโมริ ไปจนถึงเมนูอาหารฝรั่งที่ประยุกต์จากโกโบ Trails to Tsukiji: Ep. 39 Oysters ในญี่ปุ่นหอยนางรมถูกเรียกว่า น้ำนมแห่งทะเล มากกว่าครึ่งที่ขายกันทั่วโลก มีที่มาจากญี่ปุ่น การเลี้ยงหอยนางรมในญี่ปุ่นจะเลี้ยงแบบแขวนในทะเลน้ำลึก อุดมด้วยแพลงก์ตอน รสชาติจะไม่ซ้ำกันขึ้นอยู่กับแหล่งเพาะเลี้ยง มิยางิเป็นอีกแหล่งเพาะเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รองจากฮิโรชิมะ หอยนางรมจากเมืองมินามิซันริกุ เป็นที่เดียวในโลกที่มีการรับรองทางนิเวศวิทยา ติดตามชมรายการท่องโลกกว้าง วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2563 เวลา 18. 00 - 18. 50 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง